อมีร โดคู อูมารอฟ อดีดผู้นำแห่งมูญาฮิดีน เชเชน(เชชเนีย)ผู้ล่วงลับ
โดคู อูมารอฟ เกิด เมื่อ 13 เมษายน 1964 ในหมู่บ้าน เครสเซนนอฟ ในพื้นที่ ของ จ.ชาตอย ในภาคใต้ของ สาธารณรัฐเชชเนีย ท่านเกิดในชนบทเล้กๆที่มีแต่ความอบอุ่นจากครอบครัวชาวมุสลิมในด้าน การศึกษานั้น ท่านโดคู อูมารอฟ จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของสถาบันที่ทำเกี่ยว น้ำมัน ใน กรอซนีย์ เชสเนีย
การมีส่วนร่วม ของท่านโดคู อูมารอฟ ในสงคราม เชเชน
ในเดือนธันวาคม ปี 1994 โดคู อูมารอฟ ท่านไช้ชีวิตอยู่ที่มอสโคว์ ท่านเห็นว่า นี่คือหน้าที่ของท่าน ในการที่จะทำหน้าที่ของ มูญาฮิดีนเพื่อกลับไปที่ เชชเนีย และเข้าร่วมในการต่อสู้ ในระหว่างท่านได้เข้าร่วมในครั้งนั้น ท่านได้ควบคุม กองกำลัง มูญาฮิดีน และได้ทำการสู้รบในขณะนั้น และท่านได้นำกองกำลัง มูญาฮิดีน เข้าทำการต่อสู้กับ กองกำลังหน่วยรบพิเศสของ รัซเซียที่มีชื่อว่า กองกำลังแห่งหมาป่า ซึ่งในครั้งนั้นท่านได้ทำหน้าที่ อย่างกล้าหาญ และได้รับรางวัล แห่งความกล้าหาญ ในการทำหน้าที่รบ ระหว่างปี 1994-1996
การต่อสุ้ของท่านนั้น ก็โดดเด่นไม่แพ้มูญาฮิดีน ท่านอื่นๆ ซึ่งการต่อสู้ของท่านในครั้งนั้น ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของ รัฐบาล เชเชน ในระหว่างปี 1997 โดยการแต่งตั้งจาก ท่าน ประธานาธิบดี อัสลาน มาสคานอฟ
ปี 1999 ท่าน โดคู อูมารอฟ ได้ทำหน้าที่ในการ เป็นผู้บัญชาการของ กองกำลังทหารและนักรบ มูญาฮิดีน ในระดับภูมิภาคและนำกำลัง มูญาฮิดีนต่อสู้กับ พวกรัซเซีย ด้วยความแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม
ในช่วงฤดูหนาว ของปี 2000 โดคู อูมารอฟ ต่อสู้กับกองกำลัง ของรัซเซีย และได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัศที่ใบหน้า ในการปิดล้อมเมืองกรอสนี่ ตามที่ หน่วยสืบราชการลับ จอร์เจีย รายงานการบาดเจ็บของท่านในครั้งนั้นว่า โดคู อูมารอฟยังคง มี แผลเป็น บริเวณขากรรไกรล่าง แต่ในครั้งนั้น ท่านไม่ได้ปริปาก ในความเจ็บปวด คราวนั้นเลย
โดคู อูมารอฟ เป็นอีกท่านหนึ่งที่รัศเซียพยายาม ทำลายท่านด้วยความตายในหลายต่อหลายครั้ง แต่มันเป็นเพียงแค่ข่าวลือ และเป็นเพียง ข้ออ้างของทหารรัซเซียเท่านั้น ในเดือนมกราคม 2005 มีข่าวลือว่า โดคู อูมารอฟ ถูกฆ่าตาย ในการต่อสู้กับ หน่วยคอมมานโด รัสเซีย ใกล้ชายแดน จอร์เจีย แต่ข่าวดังกล่าวถูหปฏิเสฐโดย นักรบ มูญาฮิดีน เชเชน และ พวกเขาได้ยืนยันว่า ท่าน อูมารอฟ ยังคงมีชีวิตอยู่ และมันก็คือความจริงที่ท่าน ยังคง มีชีวิตอยู่ กับเหล่านักรบ มูญาฮิดีน แห่งเชสเนีย
ในเดือนเมษายน ปี 2005 โดคู อูมารอฟ และกองกำลัง มูญาฮิดีน ได้เข้าทำการต่อสุ้กับ คอมมานโดของ รัสเซีย 7 ชั่วโมงในการต่อสู้ ของท่าน ในกรอสนี่ ซึ่ง ในครั้งนั้น นักรบ มูญาฮิดีน หลายท่านได้ เป็น ชาฮีด ซึ่งในครั้งนั้นท่าน ก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ คอมาโด ของรัศเซียก็ ได้รับความสูญเสียในครั้งนั้นมากเช่นกัน
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2005 โดคู อูมารอฟ และเหล่า ทหาร มูญาฮิดีน ได้ทำการต่อสุ้อย่างดุเดือดอีกครั้งกับ เหล่าทหาร รัสเซีย ซึ่งในครั้งนั้นมีรายงานข่าวว่า ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัษ ที่ขาของท่าน แต่ความจริงแล้ว ในครั้งนั้น โดคู อูมารอฟ บาดเจ็บเพียงเล้กน้อย และสามารถ นำกองกำลัง มูญาฮิดีน โจมตีทหาร รัสเซีย และได้รับชัย ในครั้งนั้น ด้วยความ ปิติยินดี ของเหล่ามูญาฮิดีน
โดคู อูมารอฟ ได้กล่าวว่า การ ญิฮาด เพื่อปกป้องชาวมุสลิมในเชสเนียเป็นสิ่งจำเป็น ท่านยังกล่าวอีกว่า แม้พวกเราจะต้องสูญเสียผู้บังคับบัญชาที่กล้าแกร่่ง อย่าง ท่าน นายพล มาซาเยฟ และ นายพล ค๊อตฏีฮบ นั้น ก็ไช่ว่าพวกเจาจะหยุดในการ ญิฮาด และการ ญิฮาดจะต้องดำเนินต่อไป ตราบจนอธรรม อย่าง รัศเซีย หรือ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ยังคงดำเนินการ ในการ เข่นฆ่าชาวมุสลิมอยู่นั้น ตราบนั้น การญิฮาดจะต้องดำเนินต่อไป แบบไม่มีวันสิ้นสุด ข้าพเจ้าขอฝากไปยังชาติ มหาอำนาจทั้งหลายให้ประจักษ์ ถึงความกล้าหาญของเหล่านักรบ มูญาฮิดีน ทหารของอัลลอฮ ในการขับไล่ ผู้รุกราน"""
23 พฤศจิกายน 2006 เมื่อ มีรายงาน กองกำลังทหารของรัสเซีย ได้ทำการปิดล้อม กองกำลังของท่าน โดคู อูมารอฟ และเหล่า มูญาฮิดีน แห่งคอเคซัส ซึ่งตั้งค่ยอยู่ในป่าไกล้กับหมู่บ้าน ยานดีด ติดกับชายแดน รัสเซีย ซึ่งในการปิดล้อมของรัสเซียในครั้งนั้น พวกเขาได้ไช้ เฮลิค็อบเตอร์ และรถถัง และระดมยิงปืนใหญ่ ไส่กองกำลัง มูญาฮิดีน ของ อูมารอฟ แต่ท่านและเหล่านักรบ มูญาฮิดีนก็สามารถ สู้และหลุดรอดจากการปิดล้อมในครั้งนั้นมาได้ ซึ่งมีข่าวรายงานว่า โดคู อูมารอฟ ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง แต่ท่านก็สามารถ ฟันฝ่า ความเจ็บปวด และนำกองกำลัง มูญาฮิดีน ฝ่าวงล้อมของทหาร รัสเซียออกมาได้ อย่างน่าอัศจรรณ์
และ นเดือนตุลาคม 2007 ที่ รัฐบาล เชเชน ภายไต้การควบคุมของรัสเซีย รวมทั้งอิสราเอล สหรัฐอเมริกา และชาติอื่นๆได้ประกาศว่า ท่าน โดคู อูมารอฟ และเหล่า มูญาฮิดีน เป็นกลุ่มก่อการร้าย สร้างความบั่นทอนให้กับภูมิภาค ทั้งๆที่ท่านรบ เพื่อ เชเชน มาโดยตลอด แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แม้ว่าจะมีคำประกาสออกมาแบบนี้ ก็ไม่ทำให้การต่อสุ้ของนักรบ มูญาฮิดีน ในเชเชน ลดน้อยลง แต่มันกลับเป็นแรงกระตุ้นให้ ท่าน โดคู อูมารอฟ และเหล่า มูญาฮิดีน ทำการ สู้รบ ในดินแดนนั้นต่อไป และจะไม่มีวันหยุดลง เพราะเขาคือ ยอดนักรบแห่ง คอเคซัส ขนานแท้
อมีร โดคู อูมารอฟ ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ เมื่อ วัน 7 กันยายน ปี 2013 จากการ สู้รบกับคอมมานโด รัสเซีย
ขอพระองค์อัลลอฮ โปรดทรงประทานแสงสว่างในกูโบร์ให้ ท่าน อมีร โดคู อูมารอฟ ด้วยเถิด...อามีน
Arlee Khan Jundullah (แปลและเรียบเรียง)